5 วิธีการใส่รายการในสดมภ์แห่งโชค

คำกล่าวจีนที่มีชื่อเสียงท่อนหนึ่งกล่าวไว้ว่า "หนึ่งคือชะตา สองคือโชค สามคือฮวงจุ้ย" ระบบจตุสตมภ์แห่งโชคชะตา ครอบคลุมปัจจัยสำคัญของชีวิตสองประการแรก คือชะตาและโชค ชะตาคือธาตุต่างๆ ที่แปลงมาจากปี เดือน วัน และยามที่เกิด สิ่งนี้คือองค์ประกอบของบุคคลในแง่ของธาตุต่างๆ และเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นอุปนิสัยของบุคคล ความสามารถลักษณะท่าทาง ทัศนคติ ศักยภาพ ภูมิหลัง ความสัมพันธ์กับผู้อื่น อย่างไรก็ตามหลังจากที่เกิดมาแล้ว บุคคลคนนั้นจะเติบโตขึ้นและเรียนรู้ชีวิตเป็นขั้น ๆ นี่คือเส้นทางที่จะต้องก้าวผ่านไปในช่วงชีวิตตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงจุดจบ บนเส้นทางนี้อาจจะต้องพบเจอโอกาสและแนวโน้มต่างๆ มากมาย มีขึ้นมีลง มีสำเร็จมีล้มเหลว และเส้นทางนี้เองที่เรียกว่า "สดมภ์แห่งโชค"

 

สำหรับคนธรรมดา คำว่า "โชค" ดูจะมีความหมายถึงความเป็นไปได้ซึ่งโดยทั่วไปถูกมองว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปตามบุญตามกรรม แล้วแต่โอกาส แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เช่นนั้น ดังที่ไอน์สไตน์กล่าวไว้ว่า "พระเจ้าไม่ได้ทอยลูกเต๋า" ไม่มีธาตุใดในจดุสดมภ์แห่งโชคชะตาที่เกิดขึ้นอย่างสุ่ม ๆ โชคชะตาของบุคคลถูกกำหนดเอาไว้แล้วตั้งแต่เกิด รูปแบบโชคชะตาของบุคคลจะบ่งชี้ออกมาอย่างชัดเจนเมื่อบุคคลคนนั้นเกิดออกมา

 

ถ้าอย่างนั้นแล้ว โชคคืออะไร แนวคิดเรื่องโชคชะตาในจตุสดมภ์แห่งโชคชะตาก็คือ โชคคือวัฏจักรของชีวิต ที่จริงแล้วโลกใบนี้เคลื่อนที่ไปข้างหน้าเรื่อย ๆ เป็นจำนวนหลายรอบ เหมือนกับการโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ การหมุนรอบตัวเองของโลก ดวงจันทร์หมุนรอบโลก ฯลฯ และชีวิตก็มีการเปลี่ยนแปลงเป็นวงจรเช่นกัน ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือฤดูกาลทั้งสี่ ต้นพืชและสัตว์ต่างๆ เติบโตขึ้นและเดินหน้าไปตามฤดูกาลทั้งสี่ เหมือนกับต้นพืชที่แตกหน่อในฤดูหนาว เติบโตเป็นต้น

กล้าแข็งแรง และงอกงามในฤดูใบไม้ผลิ จากนั้นเริ่มโรยราในฤดูร้อน และตายในฤดูใบไม้ร่วง สัตว์ทั้งหลายดำเนินไปตามวงจรชีวิตนี้เช่นกัน แมลงบางชนิดมีวงจรชีวิตที่สั้นกว่านี้มาก บางชนิดเกิดในตอนเย็นและตายในวันถัดมา ชะตากรรมของมนุษย์ดำเนินไม่ตามวงจรแห่งการเกิด เติบโต รุ่งเรือง ร่วงโรย แก่ชรา และตาย เช่นเดียวกับวงจรชีวิตของต้นไม้ในฤดูกาลทั้งสี่ เพราะเหตุนี้วิธีที่ดีที่สุดในการทำความเข้าใจชะตากรรมของมนุษย์คือการเปรียบเทียบรูปแบบชีวิตของเรากับการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลทั้งสี่ในธรรมชาติ ดังนั้นรูปแบบชีวิตของเราหรือโชคจึงเหมือนกับการเดินทางผ่านฤดูกาลทั้งสี่เพื่อเรียนรู้ความเปลี่ยนเปลงที่เกิดขึ้นจากฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง ไปจนถึงฤดูหนาว

 

 

นี่คือหลักในการทำความเข้าใจรูปแบบของโชคในระบบจตุสดมภ์แห่งโชคชะตา ในสดมภ์ทั้งสี่คือ ปี เดือน วัน และยามของเรา สดมภ์เดือนจะบ่งบอกถึงฤดูกาลที่บุคคลเกิด ดังนั้นจึงเป็นสดมภ์ที่สร้างรูปแบบโชคของเรา โชคของบุคคลถูกระบุไว้เป็นเดือนต่างๆ ในอนาคตที่บุคคลผู้นั้นต้องผ่านไปเพื่อที่จะได้เรียนรู้ฤดูกาลทั้งสี่ ย้อนกลับไปที่ตัวอย่างของเราของบุคคลที่เกิดในวันที่ 6 กรกฎาคม 1946 (2489) เขาเกิดในเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นเดือนในฤดูร้อน และหากเรานำเขาผ่าน ช่วงสิงหาคม กันยายน ตุลาคม พฤศจิกายน ธันวาคม มกราคม กุมภาพันธ์ มีนาคม เมษายน พฤษภาคม มิถุนายน และ กลับมาสู่กรกฎาคม เขาจะได้เรียนรู้ครบทั้งสี่ฤดูในรอบปี นี่คือวิธีที่เราใส่ข้อมูลลงในรายการของ "สดมภ์แห่งโชค" ซึ่งเป็นเดือนในอนาคตที่เริ่มนับตั้งแต่เดือนที่เกิดเป็นต้นไป

 

มาดูตัวอย่างของผู้ชายที่เกิดในวันที่ 6 กรกฎาคม 1946 (2489) เดือนกรกฎาคมซึ่งเป็นเดือนเกิดของเขาเป็นธาตุไม้หยางบน นักษัตรมะเมีย ฉะนั้นหากเราต้องการเขียนรายการรูปแบบของโชค หรือ "สดมภ์แห่งโชค" ของชายคนนี้ออกมา เราเพียง แค่คัดลอกลำดับขอกิ่งสวรรค์ และก้านดินเรียงลำดับต่อเนื่องกันไปข้างหน้าตามภาพข้างล่าง ซึ่งจะได้ผลจากขวาไปซ้ายดังนี้

สดมภ์เดือน

甲 ไม้

午 ไฟ

(มะเมีย)

 

ดังนั้นจึงหมายความว่าโชคในช่วงแรกของบุคคลผู้นี้คือธาตุไม้บนธาตุดิน โชคช่วงที่สองคือธาตุไฟบนธาตุโลหะ โชคช่วงที่สาม คือธาตุไฟบนธาตุโลหะ โชคช่วงที่สี่คือธาตุดินบนธาตุดิน ฯลฯ

 

มีการตั้งข้อสันนิษฐานว่าแต่ละสดมภ์กินช่วงเวลา 10 ปีของชีวิตคน ซึ่งหมายความว่าหากเราเดินทางครบรอบวงจรแห่งโชคของเดือนทั้ง 12 เราจะมีอายุครบ 120  อย่างไรก็ตามในระหว่างนั้นเราอาจประสบอุบัติเหตุ เจ็บป่วย ดังนั้นโดยทั่วไปแล้วช่วงชีวิตของเราจะไม่ครบรอบ 120 ปี ด้วยเหตุนี้การลงรายการไว้เพียงแค่ 8 สดมภ์ก็จึงเพียงพอแล้ว

 

ยังมีอีกขั้นตอนหนึ่งที่เราจำเป็นต้องทำก่อนจึงจะสามารถจัดจตุสดมภ์ให้สมบูรณ์ได้ ดังที่เรารู้แล้วว่าสดมภ์แห่งโชคครอบคลุม ช่วงชีวิต 10 ปี แต่เป็นช่วง 10 ปีไหนนั้น เราจำเป็นจะต้องใส่หมายเลขไว้ข้างบนเพื่อแสดงอายุเริ่มต้นเมื่อเราเริ่มอยู่ภายใต้ อิทธิพลของสดมภ์แห่งโชค การจะหาอายุสำหรับเริ่มต้นโชคในแต่ละช่วงได้ เราจะต้องย้อนกลับไปดูปฏิทินหนึ่งหมื่นปีกันอีกครั้ง

 

เราจะต้องหาวันที่ 6 กรกฎาคม 1946 (2489) ในปฏิทินอีกครั้ง (อยู่ในบทความที่ 4 ก่อนหน้านี้) จากนั้นเริ่มจากวันถัดมาคือวันที่ 7 กรกฎาคม ให้เรานับจำนวนวันไปจบถึงช่องดำถัดไปซึ่งตรงกับวันนี้ 8 กรกฎาคม ดังนั้นวันที่ 7 และวันที่ 8 รวมกันเท่ากับ 2 วัน จากนั้น ให้เรานำ 2 มาหารด้วย 3 ก็จะได้หมายเลข 0.60 ซึ่งเราสามารถปัดขึ้นเป็น 1 นี่คืออายุที่บุคคลคนนั้นเริ่มโชคช่วงแรกของเขา

 

ทำไมเราต้องนำจำนวนวันมาหารด้วย 3 นี่เป็นคณิตศาสตร์ง่ายๆ เราสมมติว่าหนึ่งเดือนเท่ากับ 10 ปี ดังนั้นโดยคร่าวๆจะหมายความว่า 30 วันเท่ากับ 10 ปี เพราะฉะนั้น 3 วันจึงเท่ากับหนึ่งปี จากนั้นจำนวนปีที่มีคือ 2 วัน ดังนั้นคำตอบก็คือ 2 หารด้วย 3 เท่ากับ 0.67 ปี

 

เมื่อโชคช่วงแรกเริ่มต้นที่อายุหนึ่งปี และโชคแต่ละช่วงครอบคลุมระยะเวลา 10 ปี เพราะเหตุนี้โชคช่วงที่สองจะเริ่มที่อายุ 11 ปี โชดช่วงที่สามเริ่มที่อายุ 21 ปี ฯลฯ

 

ประการสุดท้ายที่ต้องจำไว้คือ เมื่อลงรายการสดมภ์แห่งโชคของบุคคล เราจะต้องอ้างอิงถึงเพศของบุคคล เพราะผู้ชาย และผู้หญิงจะมีวิธีแตกต่างกัน เราจะต้องเปรียบเทียบหยางและหยินของปีนั้นๆ และเพศของบุคคลคนนั้นด้วย

 

ยกตัวอย่างเช่น ปี 1946 (2489) เป็นปีธาตุไฟหยางบนนักษัตรจอ ฉะนั้นจึงเป็นปีหยาง และบุคคลตัวอย่างเป็นผู้ชาย ซึ่งเป็นหยางด้วยเช่นกัน ดังนั้นโชคของเขาจึงไปข้างหน้า ซึ่งหมายความว่าเขาเกิดในเดือนกรกฎาคม  และโชคของ เขาจะดำเนินต่อไปยังเดือนสิงหาคม  กันยายน ตุลาคม พฤศจิกายน ธันวาคม มกราคม กุมภาพันธ์...ในแง่ของกิ่งสวรรค์ และก้านดิน กึ่งสวรรค์จะไล่ลงไปตามลำดับของธาตุไม้หยิน ธาตุไฟหยาง ธาตุไฟหยิน ธาตุดินหยาง ธาตุดินหยิน ธาตุโลหะหยาง ธาตุโลหะหยิน ส่วนก้านดินจะไปข้างหน้าตามลำดับของมะแม วอก ระกา จอ กุน ชวด...

 

อย่างไรก็ตาม หากเป็นผู้หญิง จะเท่ากับว่าปีเป็นหยางแต่เพศเป็นหยิน โชคจึงเคลื่อนถอยหลัง ซึ่งหมายความว่าโชคจะถอยกลับจากกรกฎาคมไปยังมิถุนายน พฤษภาคม เมษายน มีนาคม กุมภาพันธ์ มกราคม ธันวาคม... และในแง่ของกิ่งสวรรค์และก้านดิน กึ่งสวรรค์จะถอยกลับจากเดือนธาตุไม้หยาง ซึ่งจะเป็นธาตุน้ำหยิน ธาตุน้ำหยาง ธาตุโลหะหยิน ธาตุโลหะหยาง ธาตุดินหยิน ธาตุดินหยาง... ส่วนนักษัตรจะเรียงลำดับถอยหลังเช่นกัน จากมะเมียย้อนกลับไปยังมะเล็ง มะโรง เถาะ ขาล ฉลู ชวด ฯลฯ

 

หากสดมภ์แห่งโชคย้อนถอยหลัง เวลาที่เรานับอายุเริ่มโชคช่วงแรก เราควรจะนับวันถอยหลังด้วย บุคคลคนนี้เกิดวันที่ 6 กรกฎาคม  เราจะต้องนับถอยหลังตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคมไปจนถึงช่องดำช่องก่อนหน้านี้ ซึ่งตรงกับวันที่ 6 มิถุนายน รวมเป็น เวลาทั้งหมด 30 วัน นำ 30 วันมาหารด้วย 3 คุณจะได้อายุ 10 ปี ดังนั้นสดมภ์แห่งโชคสดมภ์แรกจะเริ่มที่อายุ 10 ปี โชคช่วงสองจะเริ่มที่อายุ 20 ปี ฯลฯ

 

 

หลังจากที่เราเขียนรายการจตุสดมภ์และสดมภ์แห่งโชคชะตาออกมา โดยพื้นฐานแล้วจะถือว่าเป็นการจัดเตรียมที่สมบูรณ์ แบบและเราก็สามารถเริ่มวิเคราะห์โชคชะตาได้ ซึ่งเราจะพูดถึงในรายละเอียดในบทต่อๆ ไป

 

ตอนนี้เราลองมาตรวจสอบปรัชญาที่อยู่เบื้องหลังแนวคิดเรื่องโชคกันบ้าง ดังที่เราเห็นแล้วว่าชาวจีนถือว่าโชคเป็นปัจจัยสำคัญ ที่สุดอันดับที่สองในชีวิตที่บ่งชี้ความสำเร็จของบุคคล มีข้อเท็จจริงมากมายอยู่ในความเชื่อนี้ บุคคลที่เกิดมาพร้อมกับองค์ประกอบของธาตุที่ดีในจตุสดมภ์แสดงว่าคนคนนี้จะมีคุณสมบัติที่ดีและมีศักยภาพ แต่อาจจะไม่ได้เป็นการรับรองว่าคนคนนี้จะประสบความสำเร็จที่ดีในชีวิต มีหลายคนที่ฉลาดมากและได้รับการศึกษาที่ดี และยังต้องดิ้นรนต่อสู้สารพัดแต่อาจจะไม่ประสบความสำเร็จเลยก็ได้ เรายังเคยได้เห็นรูปแบบชีวิตที่ตรงกันข้ามด้วยเช่นกัน 

 

คนที่เกิดมายากจนได้รับการศึกษาเพียงเล็กน้อย แต่กลับได้เป็นนักธุรกิจผู้โดดเด่นหรือเป็นผู้นำในสังคม ในแง่นี้ปัจจัยด้านโชคมีบทบาทสำคัญมาก สำหรับคนที่มีชีวิตที่ประสบความสำเร็จ ชะตาของเขาอาจประถอบด้วยโชคที่เอื้ออำนวย เราสามารถเปรียบให้ชะตาคือรถยนต์ และโชคคือถนนที่รถยนต์ต้องเดินทาง หากเรามีรถเบนซ์ราคาแพงแต่ถูกกำหนดให้เดินทางผ่านภูเขาที่เต็มไปด้วยโขดหิน เขาคงไปได้ไม่เร็วนัก ด้วยเหตุนี้เราจึงจำเป็นที่จะต้องมีโชคที่ดีประกอบกับชะตาที่ดีเพื่อที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตได้ 

 

ยกตัวอย่างเช่น

วันที่ 11 กันยายน 2001 (2540) คนจำนวนมากเสียชีวิตในอาคารเวิร์ลเทรดในนิวยอร์ค จริงอยู่ที่ว่าหลายๆ คนในจำนวนนี้ มีชะตาที่ดีที่ทำให้พวกเขาได้มาทำงานในบริษัทที่มีชื่อเสียงซึ่งตั้งอยู่ในอาคารแฝดหลังนี้ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีชะตาที่ดี แต่ชีวิตของพวกเขายังถูกโชคไม่ดีขัดขวางในวันนั้น ฉะนั้นโชคอาจจะมีความสำคัญกว่าชะตาได้ในบางครั้ง

 

แนวคิดเรื่องการใช้ช่วงอายุ 10 ปีแทนหนึ่งสดมภ์แห่งโชคนั้นมีเขียนอยู่ในตำราดั้งเดิมเกี่ยวกับจตุสดมภ์แห่งโชคชะตาแต่ไม่ได้ให้คำอธิบายเอาไว้ และไม่เพียงแต่มนุษย์เท่านั้น สิ่งมีชีวิตทั้งหลายก็มีวันเกิดเช่นเดียวกับมนุษย์ ดังนั้นสัตว์อย่างสุนัขแมว และม้าก็มีจตุสดมภ์แห่งโชคชะตาไม่แตกต่างจากมนุษย์เช่นกัน แต่ในส่วนโชคของมันนั้นอาจจะดูไม่สมเหตุสมผลที่จะใช้ช่วงอายุ 10 ปีกับสตมภ์แห่งโชคของสุนัขเพราะช่วงชีวิตโดยปกติของสุนัขนั้นมีแค่ 13 ปี หากเราต้องการวิเคราะห์โชคให้กับ

สัตว์อย่างสมเหตุสมผล เช่นกับสัตว์เลี้ยงของคุณอย่างสุนัขหรือแมว เราจะต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับเหตุผลเบื้องหลังการจัดสดมภ์แห่งโชดในระดับที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

 

การใช้ช่วงอายุ 10 ปีกับโชคของมนุษย์เป็นไปได้ว่าน่าจะเกี่ยวพันกับช่วงชีวิตโดยปกติของมนุษย์ซึ่งโดยลำดับน่าจะเกี่ยวพันไปถึงช่วงเวลาระหว่างตั้งครรภ์เพื่อผลิตทายาท สำหรับมนุษย์แล้วโดยปกติจะอยู่ที่ประมาณ 9.5 เดือน ดังนั้นเราเพียงแค่ปัดจำนวนขึ้นเป็น 10 เท่านั้นเอง เมื่อพิจารณาดูแล้ว หมายเลข 10 นี้น่าจะเป็นอย่างเดียวกับ 10 ปีที่เราใช้กับโชคของมนุษย์นั่นเอง

 

หากเราต้องการเขียนรายการสดมภ์แห่งโชคของสุนัข ก็ต้องมาดูที่ช่วงเวลาตั้งท้องของสุนัขในการให้กำเนิดลูกสุนัขอยู่ที่ประมาณ 70 วัน ซึ่งเราคิดเป็น 2.5 เดือน ดังนั้นหนึ่งสดมภ์แห่งโชคสำหรับสุนัขจะอยู่ที่ประมาณ 2.5 ปี ยังมีคำถามที่เป็นเรื่องโต้เถียงซึ่งหลายๆ คนมักถามกันเช่น หากชะตาและโชคถูกกำหนดโดยวันที่เราเกิด เราจะสามารถเปลี่ยนมันได้หรือไม่ ในทางทฤษฎีแล้ว เราไม่มีทางที่จะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของเราได้เพราะไม่มีใครสามารถเลือกเกิดได้  แต่แนวคิดของเรื่องนี้คือ

ถึงแม้ว่าเราจะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาไม่ได้ แต่เราสามารถเสริมและจัดการกับโชคชะตาของเราให้ดีขึ้นได้ด้วยการทำความเข้าใจมัน ในบทก่อนๆ เราได้พูดไปแล้วว่าโชคชะตาไม่ได้เป็นปัจจัยเดียวและชีวิตของคนเราไม่ได้ถูกกำหนดด้วย วันเกิดของเราเพียงอย่างเดียว ด้วยเหตุนี้เราจึงยังมีอิสระอีกมากที่จะจัดการและควบคุมโชคชะตาของเราให้ดีขึ้นได้

 

 

Visitors: 180,264