ขั้นตอนที่4 ภูมิทัศน์กับฮวงจุ้ย

เมื่อทำแผนภูมิดาวเหินแต่ละช่องในจัตุรัสหลัวซูจะมีดาวสามดวง อันได้แก่ ดาวประจำยุค (ได้มาจากช่วงเวลาในขณะที่สร้างบ้านว่าอยู่ในยุคใด) ดาวน้ำ และดาวภู 

 

ดาวน้ำและดาวภูหมายถึงอะไร ในแง่ของภูมิทัศน์ทางกายภาพ โปรดจำไว้ว่าฮวงจุ้ยเกิดจากการวิเคราะห์พลังที่อยู่ในภูมิทัศน์

 

ดังนั้นการมองว่าดาวเหินแสดงปฏิกิริยากับสิ่งแวดล้อมทางกายภาพที่เป็นจริงจึงเป็นเรื่องสำคัญ ที่จริงกฎและแนวคิดต่างๆ จำนวนมากที่ช่วยสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแผนภูมิดาวเหินกับโลกภายนอกมาจากฮวงจุ้ยสำนักซานเหอ

 

ถ้าในเชิงสัญลักษณ์ ความมั่นคงของภูเขานำสุขภาพที่ดี ความสัมพันธ์ที่ดี ครอบครัวที่ให้ความรัก และการสนับสนุนมาให้ 

 

ส่วนการไหลของน้ำ อาทิ แม่น้ำที่ไหลจากน้ำพุธรรมชาติซึ่งพบได้บนเขาสูง ก็นำความมั่งคั่งมาให้

 

เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมดาวภูจึงเทียบเท่าสุขภาพ ความสัมพันธ์ และครอบครัว ในขณะที่ดาวน้ำเทียบเท่าความมั่งคั่งร่ำรวย 

 

อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์นี้มีความหมายมากกว่าสัญลักษณ์อย่างแน่นอน เนื่องจากน้ำซึ่งมารวมกันอยู่ในสถานที่ที่ถูกต้อง ยังทำให้ชี่รวมตัวกันได้จริงๆ อีกด้วย และมันจะย้อนกลับไปเกื้อกูลต่อการ

ก่อเกิดความมั่งคั่ง 

 

นิยามภูเขาและน้ำในระดับจุลภาคในอาคารหรือบ้านได้อย่างไร? 

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ ห้องที่เปิดสู่ทิวทัศน์ซึ่งรวมเอา สระน้ำหรือทะเลสาบเข้าไว้ด้วย อาจถือได้ว่าเป็นห้องลักษณะน้ำ ส่วยห้องที่มองออกไปเห็นภูเขา หรืออาจเป็นแค่อาคารสูง ถือได้ว่าเป็นห้องลักษณะภู เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญต้องออกไปสำรวจภูมิทัศน์ข้างนอกและมองดูให้รอบๆ มองจริงๆ แล้วจดสิ่งที่เห็นเอาไว้ 

 

แรกที่สุดให้มองดูทัศนียภาพด้านหน้าก่อน จากนั้นก็ให้มองทัศนียภาพด้านหลัง ฮวงจุ้ยไม่ใช่อะไรอื่น เว้นแต่เป็นวิทยาศาสตร์แห่งการสังเกต สิ่งที่อยู่ใกล้แสดงให้เห็นลักษณะต่างๆใหญ่ขึ้นฉันใด ภูเขาหรือผืนน้ำที่อยู่ใกล้ย่อมทรงพลังยิ่งกว่าภูเขาหรือผืนน้ำที่อยู่ใกลฉันนั้น

 

สิ่งสำคัญคือ การมองเข้าไปในแต่ละห้อง เพื่อดูลักษณะทางกายภาพภายในของห้องว่าเป็นห้องลักษณะน้ำหรือห้องลักษณะภู

 

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุดของเรื่องนี้คือ ห้องที่มีระดับพื้นต่ำกว่าส่วนอื่นที่เหลือของบ้าน หรือห้องที่มีตู้ปลาขนาดใหญ่ ซึ่งทั้งคู่ต่างก็ควรถูกมองว่าเป็นห้องลักษณะน้ำ

 

ในการประเมินภายนอก ต้องตรวจสอบว่าน้ำและภูส่งผลกระทบต่อกันและกันอย่างไร และส่งผลกระทบต่อดาวต่างๆ ของห้องอย่างไร ดาวน้ำที่เข้มแข็งในบริเวณที่มีภูเขาจริงไม่เป็นประโยชน์ การมีดาวภูที่เข้มแข็งในบริเวณที่มีน้ำจริงก็ไม่เป็นประโยชน์เช่นกัน

 

ลักษณะเช่นนี้มักเรียกกันในตำราฮวงจุ้ยดาวเหินภาษาจีนว่า "น้ำขึ้นภู" และ "ภูตกน้ำ" และมันไม่ใช่ลักษณะที่ดี การแปลความหมายของตำแหน่งภูและตำแหน่งน้ำไม่จำเป็นต้องทำอย่างเคร่งครัดตายตัว

 

ตำแหน่งภูในห้องอาจแค่บ่งชี้ด้วยการมีเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนักๆ ชิ้นใหญ่ ส่วนตำแหน่งน้ำอาจเป็นเพียงบริเวณเปิดหรือบริเวณที่ต่ำกว่า

 

ความหมายขยายความของภูและน้ำ ภูปกครองคน น้ำปกครองความมั่งคั่ง

 

ภูเขา

ชนบท ทิวเขา เนินเขา เนินดินที่ยกสูง

เมือง อาคาร ผนัง สวนหิน 

พื้นที่สูงกว่า บริเวณที่เงียบสงบ บริเวณหยิน

 

น้ำ

ชนบท ทะเล แม่น้ำและทะเลสาบ สายน้ำและลำธาร หนองน้ำ

เมือง ถนน และทางเดิน สระน้ำ สระว่ายน้ำ

พื้นที่ต่ำกว่า บริเวณที่พลุกพล่าน บริเวณหยาง

 

โครงสร้างที่ จะกระตุ้นดาวภู และกระตุ้นดาวน้ำ การกระตุ้นที่รุนแรงที่สุดจะมาจากโครงสร้างใน

ชนบทหรือของจริง หรือมาจากภูเขา/ผืนน้ำที่แท้จริง 

 

การกระตุ้นที่สำคัญแต่น้อยกว่าจะมาจากโครงสร้างในเมือง และโครงสร้างเชิงมโนทัศน์หรือเชิงสัญลักษณ์จะมีประสิทธิผลน้อยที่สุด 

ดาวภูที่สำคัญที่สุดในแผนภูมิใดๆ คือดาวภูที่โดดเด่น พูดอีกนัยหนึ่งคือ ดาวภูที่มีเลขเดียวกับดาวยุคปัจจุบัน

 

โครงสร้างแหล่งน้ำจะกระตุ้นดาวน้ำในทางที่เป็นประโยชน์ และ โครงสร้างภูเขาจะกระตุ้นดาวภูในทางที่เป็นประโยชน์ อย่างไรก็ตาม ถ้าสลับสับเปลี่ยนแบบผิดฝาผิดตัว ทำให้ดาวน้ำพบกับโครงสร้างภูเขา หรือทำให้ดาวภูพบกับโครงสร้างผืนน้ำ ดาวน้ำและดาวภูไม่เพียงถูกทำให้เป็นกลางเท่านั้น แต่มันยังอาจแสดงธรรมชาติด้านตรงข้ามของมันให้ปรากฎอีกด้วย 

 

 

ข้อมูลประการนี้เป็นประโยชน์ในแง่ว่า สามารถทำให้ดาวร้ายเป็นใบ้โดยการจัดวางโครงสร้างอันแท้จริงที่มีคุณสมบัติตรงข้ามมาไว้ใกล้ๆ มัน

 

ในแง่ของอุดมคตินั้น เราอยากได้ดาวภูที่เป็นมงคลและดาวน้ำที่อัปมงคลอยู่ใกล้กับภูเขาจริง และยังอยากได้ดาวน้ำที่เป็นมงคลและดาวภูที่อัปมงคลมาอยู่ใกล้กับแหล่งน้ำจริง

 

ประเด็นหนึ่งที่มักถูกลืมเลือนไปก็คือ โครงสร้างอันงดงามของภูเขา/ผืนน้ำจะมีประสิทธิผลมากกว่าและให้ผลในทางบวกมากกว่า โครงสร้างที่งดงามน้อยกว่า ดังนั้นในการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของสวนรอบๆ อาคาร จงพยายามทำให้มันสดสวยและสง่างาม 

 

ส่วนประกอบอันแท้จริงของชี่ประเภทที่ถูกต้องซึ่งอยู่ใกล้กับอาคารของคุณ  ฮวงจุ้ยเป็นการไหลของผ่านสภาพแวดล้อมทางกายภาพ (หรือดิน) ซึ่งถูกกำหนดเงื่อนไขด้วยอิทธิพลของฟ้าและคน

 

ข้อสังเกตคือว่าลักษณะน้ำเป็นหยาง (ไม่หยุดนิ่งและกระจ่าง) ในขณะที่ลักษณะภูเขาเป็นหยิน (หนาวเย็น มืดและสงบนิ่ง) อย่าทำความผิดโดยทึกทักเอาเองว่าน้ำเป็นหยิน

 

เนื่องจากมันคล้อยตาม ในระยะยาวแล้วภูเขาต่างหากที่คล้อยตามน้ำและถูกน้ำกัดเซาะ

ผลคือ โครงสร้างขนาดใหญ่อย่างทะเลสาบหรือภูเขาจะกำหนด เงื่อนการไหลของชี่ในสเกลใหญ่ มากกว่าสีฟ้าของผนังด้านทิศเหนือในห้องนอนของเจ้าบ้าน

 

ฮวงจุ้ยเป็นเรื่องของความสมดุล และ อาจารย์ขอพูดเสริมว่ามันยังเป็นเรื่องของสำนึกเกี่ยวกับสัดส่วนอีกด้วย สิ่งแวดล้อมทางกายภาพของสถานที่ตั้งใดๆ ย่อมมีขนาดสัดส่วนที่ใหญ่กว่าและมีศักยภาพที่ทรงพลังกว่าหน้าต่างหรือกระจกเงาในกระท่อม

 

ดังนั้นเราจึงมาถึงกฎที่สำคัญมากข้อหนึ่งของฮวงจุ้ยดาวเหิน นั่นคือ เงื่อนไขและโชคถูกกำหนดโดยดาวเหินที่ได้รับการยืนยัน หรือได้รับการกระตุ้นด้วยรูปลักษณ์ หรือได้รับการสนับสนุน หรือขาดการสนับสนุนจากลักษณะทางกายภาพที่สอดคล้องกันเท่านั้น

 

 

ตัวอย่างเช่น ดาวน้ำ 8 ในวังหันเป็นสิ่งที่พึงมีเพื่อโชคแห่งความมั่งคั่งในยุค 7 หรือยุค 8 แต่ดาวน้ำ 8 ในวังนี้จะมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริงก็ต่อเมื่อด้านนอกของวังหันมีลักษณะน้ำด้วย โดยเฉพาะถ้ามันเป็นน้ำจริง ถ้ามันถูกปิดกั้นด้วยภูเขาละก็ มันจะไร้ประสิทธิผลในบริวณเมืองและชานเมือง อาคารและผนังข้างเคียงสามารถทดแทนภูเขาได้อย่างพอเพียง ส่วนถนนและพื้นที่ที่ต่ำกว่าก็สามารถ ทดแทนแหล่งน้ำได้ แต่แน่นอนว่าของจริงย่อมดีกว่าเสมอ!

 

 

รูปทรงภูเขาของเก้าดาวเหิน ดาวแต่ละดวงในเก้าดาวเหินมีความเกี่ยวพันกับรูปทรงภูเขาซึ่ง เชื่อมโยงกับดาวเหินที่เฉพาะเจาะจง ดาวภูที่เป็นมงคลจะได้รับความสนับสนุนจากภูเขาทางกายภาพในสี่ระดับด้วยกัน นั่นคือ

1. เห็นได้ชัดว่าดาวภูได้รับความสนับสนุนถ้ามีภูเขาทางกายภาพในส่วนต่างๆ ของมัน

2. อย่างไรก็ตาม จะดีกว่ามากถ้ารูปทรงของภูเขาทางกายภาพมีธาตุเดียวกับธาตุของดาวภู

3. ถ้าภูเขาทางกายภาพมีรูปทรงเดียวกับดาวเหินดวงที่เฉพาะเจาะจง นี่จะเพิ่มอำนาจอิทธิพลของมันให้มากขึ้น

4. สุดท้าย ถ้าภูเขาทางกายภาพสอดคล้องกับดาวภูที่เห็นได้ในแผนภูมิ พลังของมันจะอยู่ในระดับที่เกือบต้านทานไม่ได้เอาเลย

 

จำเป็นต้องตระหนักว่ารูปทรงภูเขาสอดคล้องกับดาวแต่ละดวงของเก้าดาวเหิน เพื่อที่จะได้สามารถจดจำมันขณะทำงานภาคสนาม

 

ต้องสังเกตภูเขาอย่างระมัดระวังเพื่อที่จะระบุมันได้ มีหลายกรณีที่ลักษณะของภูเขาไม่สอดคล้องกับรูปทรง ต้องมองหาเครื่องบ่งชี้ธาตุอื่นๆ

ตัวอย่างเช่น ในกรณีที่คลุมเครือ หินกลมที่ดูเหมือนธาตุทอง ซึ่งโผล่พ้นดินขึ้นมาที่ด้านข้างของภูเขา อาจโน้มน้าวให้แยกประเภทมันว่าเป็นภูเขาธาตุทอง และดังนั้นมันจึงสนับสนุนดาว 6-ขาว (อู่ชวี) หรือดาว 7-แดง (พ่อจวิน) เนินเขาที่ตะปุ่มตะป่ำมากและขดเป็นวงอาจถูกมองว่าเป็นดาว4-เขียว (เหวินฉวี่) หรือดาว 9-ม่วง (อิ้วงี้) อย่างใดอย่างหนึ่ง ถ้ามีเนินเขาติดต่อกันหลายเนิน เนินหนึ่งอยู่หลังอีกเนินหนึ่ง มันจะมีโอกาสเป็นดาว 9-ม่วง (อิ้วบี้) มากกว่า

 

อำนาจของรูปลักษณ์ภายนอกของที่ดิน ซึ่งสามารถกระตุ้นหรือลบล้างดาวต่างๆ ในแผนภูมิไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง ไม่ควรถูกประเมินต่ำเกินไป นี่คือเหตุผลหนึ่งที่ว่าทำไมฮวงจุ้ยอันแท้จริงจึงไม่สามารถทำได้ด้วยการกางผังวางลงบนโต๊ะและนั่งคำนวณเอา อาจารย์ฮวงจุ้ยต้องไปยังสถานที่ตั้งในแบบเดียวกับที่สถาปนิกต้องตรวจสอบที่ดินก่อนจรดปากกาลงบนกระดาษ

 

เราก็ได้พิจารณาแล้วว่าดาวภูและดาวน้ำคืออะไร และพิจารณาว่ามันได้รับผลกระทบจากภูมิทัศน์แวดล้อมอย่างไรอีกด้วย ถึงเวลาที่จะทำฮวงจุ้ยกันแล้ว

 
Visitors: 165,336